00 น. โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี 18. หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี 19. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ 19. ชลบุรี เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 18. ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ นครราชสีมา 18. เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 18. 30 น. ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด 19. เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี สำหรับบิ๊กแมตช์ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.
ดูสดทุกแมตช์ฟุตบอลไทยลีกตลอดฤดูกาล 2022-2023 - AIS
ประจำปี 2550 โดยได้ตำแหน่งชนะเลิศอีกด้วยในปีนั้น โดยเอาชนะ สโมสรธนาคารกรุงไทย ไปได้ 1-0 จากการทำประตูของ จูเลียส บาก้า ต่อมาก่อนที่ไทยลีก 2551 จะเริ่มการแข่งขัน ในเดือนเมษายน สโมสรก็ได้เตรียมการที่จะจดทะเบียนสโมสรให้อยู่ในรูปแบบ บริษัทนิติบุคคล โดยใช้ชื่อ บริษัท สโมสรฟุตบอลชลบุรี จำกัด พร้อมกับจดลิขสิทธิ์ฉายาและตราสัญลักษณ์ของสโมสรด้วย ซึ่งทางบริษัท จะเข้ามาจัดการบริหารสโมสรอย่างเต็มตัว เพื่อความสะดวกในการวางงบประมาณทำทีมและแผนงานต่างๆ[4] ส่วนผลงานในลีกในฤดูกาลนั้น สโมสรไม่สามารถป้องกันตำแหน่งชนะเลิศไว้ได้ โดยได้แค่รองชนะเลิศ โดยสโมสรชนะเลิศในฤดูกาลนั้น คือ สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่ก็ยังได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี คัพ ซึ่งเป็นถ้วยรองในระดับทวีปเอเชียแทน เข้าร่วมแข่งขันในระดับทวีปครั้งแรก[แก้] สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรก โดยจับฉลากแบ่งสาย อยู่ในสาย G ร่วมกับ เมลเบิร์น วิกตอรี (ออสเตรเลีย) กัมบะ โอซะกะ (ญี่ปุ่น) และ ชุนนัม ดรากอนส์ (เกาหลีใต้) โดยสโมสรได้เลือก สนามศุภชลาศัย เป็นสนามเหย้าแทน เนื่องเพราะ สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ไม่ผ่านมาตรฐานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ด้านผลงานของสโมสรในการแข่งขัน สโมสรทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในช่วงสองเกมแรก สามารถบุกไปเสมอ กัมบะ โอซะกะ ได้ถึงญี่ปุ่น และกลับมาชนะ เมลเบิร์น วิกตอรี ได้ที่สนามศุภชลาศัย 3 ประตูต่อ 1 แต่ทว่า ใน 4 เกมที่เหลือ สโมสรทำผลงานได้ไม่นัก โดยเก็บได้แค่คะแนนเดียว ในเกมที่เสมอกับ ชุนนัม ดรากอนส์ ทำให้สโมสร ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มในปีนั้นด้วยอันดับสุดท้าย แต่ก็เป็นเกียรติประวัติให้กับสโมสร ได้เป็นที่รู้จักในระดับเอเซียมากขึ้น ฤดูกาล 2552[แก้] ปี 2552 สโมสรได้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอน โดยได้แต่งตั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จาก สโมสรจุฬาฯ-สินธนา มาแทน จเด็จ มีลาภ ที่ย้ายไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรพัทยา ยูไนเต็ด โดยเริ่มต้นในปีนี้ ด้วยการได้ตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.
สโมสรฟุตบอลชลบุรี - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ชลบุรีชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลชลบุรีฉายาฉลามชล[1]ก่อตั้งพ. ศ. 2540 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตร สมุทรปราการ (รวมทีม) พ. 2543 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี (แยกออกจากสโมสรฟุตบอลสันนิบาตรฯเพื่อส่งเข้าร่วมการแข่งขัน โปรวินเชียลลีก)สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียมความจุ8, 600 [1]เจ้าของบริษัท ชลบุรี เอฟซี จำกัดประธานวิทยา คุณปลื้มผู้จัดการว่างผู้ฝึกสอนสะสม พบประเสริฐลีกไทยลีก2564–65อันดับที่ 7เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร สีชุดทีมเหย้า สีชุดทีมเยือน สีชุดที่สาม ฤดูกาลปัจจุบัน ทีมของชลบุรีเอฟซี ฟุตบอล (ชาย) ฟุตบอลบี (ชาย) ฟุตซอล (ชาย) อีสปอร์ต ฟุตบอล (หญิง) สโมสรฟุตบอลชลบุรี เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย โดยเป็นสโมสรจากจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันลงเล่นในไทยลีก เคยได้ตำแหน่งชนะเลิศในฤดูกาล 2550 ซึ่งปัจจุบันใช้สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียม เป็นสนามเหย้าของสโมสร ประวัติสโมสร[แก้] ยุคเริ่มต้น[แก้] สโมสรฟุตบอลจังหวัดชลบุรี แต่เดิมเป็นทีมฟุตบอลเยาวชนของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โดยมี อรรณพ สิงห์โตทอง, ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ, สนธยา คุณปลื้ม และ วิทยา คุณปลื้ม เป็นผู้ดูแล โดยได้ส่งทีมฟุตบอลของโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับเยาวชน และได้รับรางวัลชนะเลิศในหลายการแข่งขัน อาทิ การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา เป็นต้น[2] ต่อมาทางทีมฟุตบอลของโรงเรียนจึงสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ในนามของ ทีมฟุตบอลโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ต่อมาเมื่อ สมาคมสันนิบาตสงเคราะห์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข.
สโมสรฟุตบอลชลบุรี - วิกิพีเดีย
วิเคราะห์บอล การท่าเรือ เอฟซี vs ชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564
2555 ณ สนามชลบุรีสเตเดียม สโมสรฟุตบอลชลบุรีได้จัดพิธีเปิดตัวสัญลักษณ์สโมสรใหม่ ทดแทนสัญลักษณ์แบบเดิมที่ใช้งานมายาวนานนับสิบปี ทั้งนี้นายวิทยา คุณปลื้ม ประธานสโมสร ได้กล่าวถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่าต้องการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสโมสรให้มีความเป็นมืออาชีพพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ จึงต้องมีการพัฒนาสัญลักษณ์สโมสรให้มีความเป็นสากลและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง[22] ประวัติสัญลักษณ์ของสโมสร 2543 2544 – 2545 2548 2549 - 2554 2555 – ปัจจุบัน สถิติ[แก้] ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล[แก้] ฤดูกาล ลีก[23] เอฟเอคัพ ลีกคัพ ควีนสคัพ ถ้วยพระราชทาน ก การแข่งขันระดับเอเชีย ผู้ทำประตูสูงสุด ระดับลีก แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม อันดับ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก เอเอฟซีคัพ ชื่อ ประตู 2543/44 โปรลีก 22 13 5 4 30 16 44 อันดับ 3 – 2545 10 1 15 7 17 อันดับ 2 (สาย เอ) นิกร อนุวรรณ 3 2 12 18 รองชนะเลิศ 2546 62 32 วีระพงษ์ ศรีเพชร 20 2547 6 26 21 อันดับ 7 57 19 51 ชนะเลิศ พิภพ อ่อนโม้ 14 2549 ไทยลีก 29 28 27 อันดับ 8 2550 50 25 63 2551 34 59 แบ่งกลุ่ม 2552 8 รอบ 16 ทีม รอบรองชนะเลิศ ก่อนรองชนะเลิศ โคเน่ โมฮัมเหม็ด 2553 9 60 รอบ 2 2554 58 69 รอบ 5 2555 65 33 70 รอบ 3 2556 61 35 ตีอากู คุนญา 2557 38 76 รอบ 16 ทีมสุดท้าย 2558 อันดับ 4 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เพลย์ออฟ 2559 31 52 อันดับ 5 โรดรีกู แวร์จีลีอู 2560 11 53 รอบแรก เรนัน มาร์เกวซ 2561 45 46 อันดับ 9 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ 2562 43 40 รอบ 64 ทีมสุดท้าย รอบ 32 ทีมสุดท้าย ลูเคียน อาราอูโฌ จี อัลเมดา 2563–64 อันดับ 12 ยกเลิกการแข่งขัน ไคอง 2564–65 ยู บย็อง-ซู 2565–66 เลื่อนชั้น ตกชั้น ผลงานระดับทวีป[แก้] การแข่งขัน รอบ คู่แข่ง เหย้า เยือน รวม รอบแบ่งกลุ่ม กัมบะ โอซากะ 0–2 1–1 อันดับที่ 4 เมลเบิร์นวิกตอรี 3–1 1–3 ช็อนนัมดรากอนส์ 2–2 0–1 อีสเทิร์น 4–1 1–2 อันดับที่ 1 เกดะห์ 1–0 ฮานอย เอซีบี 6–0 2–0 เปเอ็ซเอ็มเอ็ซ เมดัน 4–0 รอบก่อนรองชนะเลิศ บิ่ญเซือง 2–4 อีสต์เบงกอล 4–4 เซาท์ไชนา 3–0 เปอร์ซิจายาปูรา 0–3 ศรีวิชัย นาซาฟการ์ชี 1–0 (ต่อเวลา) 1–1 (3–4 ลูกโทษ) รอบคัดเลือกเพลย์ออฟ โปฮัง สตีลเลอร์ส ย่างกุ้งยูไนเต็ด โฮม ยูไนเต็ด 2–1 ซิติเซน 3–3 Al-Zawra'a Al-Shorta 4–2 (ต่อเวลา) 5–4 Arbil 1–4 2–8 รอบคัดเลือกรอบ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 เป่ย์จิงกั๋วอัน 0–4 คิตฉี รอบเพลย์ออฟ คาชิวะ เรย์โซล 2–3 (ต่อเวลา) 3–2 (ต่อเวลา) เอฟซี โตเกียว 0–9 ผู้เล่น[แก้] ผู้เล่นชุดปัจจุบัน[แก้] หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น DF นพนนท์ คชพลายุกต์ (รองกัปตันทีม) ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ซอมี่นทู่น กฤษดา กาแมน ทรงชัย ทองฉ่ำ FW ยู บย็อง-ซู MF เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (กัปตันทีม) ฟาอิค โบลเกียห์ พิทักษ์ พิมแป้ จักรพงษ์ แสนมะฮุง อันโตนิโอ แสนใจรักษ์ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ สุขสันต์ บุญตา ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว 23 เดนนิส มูริลลู 24 ภานุพงศ์ พลซา GK ชนินทร์ แซ่เอียะ 42 กิตติพงษ์ แสนสนิท เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว 64 กษิดิศ กาฬสินธุ์ บุคฆอรี เหล็มดี 77 สุมัญญา ปุริสาย 80 ชมพัฒน์ บุญเลิศ 81 อามาดู วาตารา 98 เรนาตอ เกลิช 99 ดานีลู อัลวึส หมายเหตุ: สโมสรยกเลิกหมายเลข 12 ให้เป็นตัวแทนของกองเชียร์ ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว[แก้] สิทธิโชค ภาโส (ไป เอฟซี ริวกิว จนจบฤดูกาล) ทัตพิชา อักษรศรี (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) เสฏฐวุฒิ วงค์สาย (ไป โปลิศ เทโร จนจบฤดูกาล) ชาคร พิลาคลัง (ไป นครศรีฯ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) รชต หมอรักษา (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) พงศกร ตรีสาตร์ (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) พันธมิตร ประพันธ์ (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) 75 สัมพันธ์ เกษี (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) — กิตติพงศ์ เขตภารา (ไป นครศรีฯ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) วรากร ทองใบ (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) นิติธร ศรีประมาณ (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) ทีมงานประจำสโมสร[แก้] ดำเนินงานผ่าน: บริษัท ชลบุรี เอฟ.
2559 หลังจากมีการแข่งขันไปแล้ว 31 เกม เพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฤดูกาล 2560[แก้] ใน ฤดูกาล 2560 จบอันดับที่ 7 แข่ง 34 นัดมี 53 คะแนน ทำให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังสิ้นสุดฤดูกาล ฤดูกาล 2561[แก้] ผู้บริหารแต่งตั้ง โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม[14]และแต่งตั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ต่อมา โกรันได้ลาออกจากตำแหน่ง[15] และได้แต่งตั้ง จักรพันธ์ ปั่นปี ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทน จบที่อันดับ 9 แข่ง 34 นัด มี 46 คะแนน ในฤดูกาลนั้น ฤดูกาล 2562[แก้] ในฤดูกาล 2562 ทีมมีผลงานไม่ค่อยดีนักโดยหลังจากการแข่งขันทั้งสิ้น 13 นัด ทีมตกอยู่ในอันดับ 10 ของตาราง และตกรอบรายการเอฟเอคัพ จักรพันธ์ ปั่นปี จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 [16] ต่อมาบอร์ดบริหารสโมสรตัดสินใจแต่งตั้งสะสม พบประเสริฐ ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทน[17] สะสม พบประเสริฐ ได้ดึงตัวนักเตะมากประสบการณ์ เช่น ดัสกร ทองเหลา ธีรเทพ วิโนทัย สมปอง สอเหลบ มงคล นามนวด และสินทวีชัย หทัยรัตนกุล กลับมาช่วยประคองนักเตะเยาวชนที่มีอยู่ในทีม และสามารถจบที่อันดับ 7 มี 40 คะแนน ในฤดูกาลนั้น ฤดูกาล 2563/2564[แก้] ชลบุรี เอฟซี ยังมีผลงานไม่ดีต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้ว โดยแข่งไปทั้งสิ้น 30 นัด มี 32 คะแนน จบอันดับที่ 12 ของฤดูกาล แต่สามารถเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศรายการเอฟเอคัพ ได้สำเร็จ และจบด้วยการเป็นรองแชมป์ ฤดูกาล 2564/2565[แก้] ชลบุรี เอฟซี เริ่มต้นฤดูกาลได้ดีในเลกแรก แข่งไป 15 นัด มี 28 คะแนน เป็นอันดับ 3 ในเลกแรก ทว่าหลังจบเลกแรกสโมนสรมีความจำเป็นต้องขาย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ไปบีจี ปทุมยู ไนเต็ด เพื่อพยุงสภาพคล่องทางการเงินของโมสรจากผลกระทบของวิกฤติไวรัสโควิด-19[18] และการบาดเจ็บของเดนนิส มูริลลู กองหน้าคนสำคัญ[19] ทำให้ในครึ่งฤดูกาลหลังผลการแข่งขันจึงตกลงเมื่อเทียบกับเลกแรก แต่ยู บย็อง-ซู ก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น[20] สามารถประคองทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 7 ในส่วนของบอลถ้วยสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการไทยลีกคัพ[21] สัญลักษณ์สโมสร[แก้] ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.
วิเคราะห์ รีโว่ ไทยลีก ชลบุรี VS การท่าเรือ 25 พฤศจิกายน 2565
2555 เวลา 19. 00 (ตามท้องถิ่น) ที่ ชลบุรีสเตเดียม จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ผลปรากฏว่า ชลบุรี ชนะ อัล ซาวร่า ไปได้ 1 - 0 จากประตูของ พิภพ อ่อนโม้ ในนาทีที่ 8 จึงผ่านเข้ารอบไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป[9] ชลบุรีได้ไปเจอกับสโมสรกีฬาอัลชอร์ตา จากประเทศซีเรีย โดยรอบแรกเล่นที่ชลบุรีสเตเดียม ผลปรากฏว่าชลบุรีแพ้ไป 2 - 1 ทั้งที่นำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก ตีอาโก คุนญา[10] และรอบสองได้ไปเล่นที่สนาม ปรินทส์ โมฮัมเหม็ด สเตเดียม ที่ ประเทศจอร์แดน เนื่องจากสนามเหย้าของอัลชอร์ต้าซึ่งอยู่ในประเทศซีเรีย ในเมืองดามัสกัสได้มีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ทางเอเอฟซีจึงปรับให้มาเล่นที่สนามของประเทศจอร์แดนแทน ซึ่งผลปรากฏว่าครบ 90 นาที ชลบุรีนำอยู่ 2 - 1 แต่รวมสกอร์แล้วยังเสมออยู่ 3 - 3 เลยต้องต่อเวลาพิเศษไป ผลปรากฏว่าชลบุรีได้ 2 ประตู จากติอาโก คุนญา ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ครบ 120 นาที ชลบุรีจึงบุกไปชนะได้ 4 - 2 รวมสกอร์จากนัดแรก ชลบุรีชนะไป 5 - 4 โดยรอบก่อนรอบรองชนะเลิศ ชลบุรีจะได้พบทีม สโมสรฟุตบอลอาร์บิล จากประเทศอิรัก[11] ซึ่งนัดแรกชลบุรีบุกไปแพ้ถึง 1 - 4 และนัดที่สองได้กลับมาเล่นที่ชลบุรีก็แพ้ไปด้วยสกอร์เดิม 1 - 4 รวมผลสองนัดชลบุรีตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 8 - 2 คว้าอันดับ 3 ไปครอง ฤดูกาล 2556[แก้] ปี 2556 สโมสรเปิดตัววรวุฒิ ศรีมะฆะ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งเทิดศักดิ์ ใจมั่น ขึ้นโค้ชและผู้เล่นอีกตำแหน่งหนึ่ง ในปีนี้จบฤดูกาลด้วยดันดับสามในลีกแต่ได้สิทธิในการเข้าร่วมรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในรอบคัดเลือกรอบสอง ขณะเดียวกัน วิทยา เลาหกุล ได้ประกาศลาออกจากการคุมทีมและขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคตามเดิม โดยแต่งตั้ง มะซะฮิโระ วะดะ จากวิสเซล โคเบะ เข้ามาทำหน้าที่แทน[12] ฤดูกาล 2557[แก้] ปี 2557 สโมสรภายใต้การคุมทีมของมะซะฮิโระ วะดะ จบฤดูกาลในตำแหน่งรองชนะเลิศทั้งรายการไทยพรีเมียร์ลีกและรายการไทยคมเอฟเอคัพ โดยพ่ายให้กับบางกอกกล๊าส 1-0 ภายหลังมะซะฮิโระ วะดะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม มติผู้บริหารตัดสินใจดึง จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง ฤดูกาล 2558[แก้] ปี 2558 สโมสรที่ได้จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง พาทีมจบฤดูกาลในอันดับที่สี่ แต่ได้สิทธิในการเข้าร่วมรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในรอบเพลย์ออฟ รอบสองแทน สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี ที่ขาดคุณสมบัติเข้าร่วมรายการนี้เนื่องจากติดปัญหาเรื่องคลับไลเซนซิ่ง โดยหลังจบนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ชลบุรีเปิดบ้านพ่ายให้กับ สโมสรฟุตบอลสระบุรี 0-3 จเด็จ มีลาภ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมทันที ยุคปัจจุบัน[แก้] สโมสร ได้มีการปรับเปลื่ยนนโยบายการพัฒนาสโมสร โดยเน้นใช้ผู้เล่นเยาวชนของสโมสรมากขึ้น โดยได้เริ่มต้นตั้งแต่ฤดูกาล 2556 โดยส่ง สโมสรพานทอง เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในระดับ ดิวิชัน 2 โดยนำนักฟุตบอลเยาวชนเข้าร่วม และพัฒนา ต่อยอดสู่สโมสรในอนาคต ต่อมาใน ฤดูกาล 2559[แก้] ฤดูกาล 2559 ได้แต่งตั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร[13] และพร้อมกับดันนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสรขึ้นสู่ ทีมชุดใหญ่ โดยผลงานในปีนี้ จบอันดับที่ 5 แข่ง 31 นัดมี 51 คะแนน โดยในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ไทยลีกแข่งไม่จบฤดูกาล หลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยุติการแข่งขันในวันที่ 14 ตุลาคม พ.
ไว้ได้อีกสมัย โดยการเอาชนะจุดโทษ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 6 ประตูต่อ 5 ภายหลังเสมอในเวลา 90 นาที 2 ประตูต่อ 2 ส่วนในลีกนั้น ชลบุรีทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ เป็นสมัยที่ 4 ส่วนจเด็จ มีลาภ ย้ายไปเป็นผู้จัดการทีมสงขลา ยูไนเต็ด เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2555[แก้] ภายหลังจากเอเอฟซีปรับจำนวนทีมจากประเทศไทยให้สามารถเข้าร่วมแข่งขันในรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม 1 ทีม และรอบคัดเลือกอีก 1 ทีม ทำให้ชลบุรีได้สิทธิเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกโซนตะวันออกอีกครั้ง ด้วยสาเหตุที่ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตำแหน่งชนะเลิศทั้งรายการไทยพรีเมียร์ลีกและรายการเอฟเอคัพทั้งสองรายการ ทำให้ชลบุรีซึ่งได้ตำแหน่งรองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีกใด้สิทธิตัวแทนของประเทศไทยอีกหนึ่งทีม โดยจะเข้าไปพบกับโปฮัง สตีลเลอร์ส จากเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มต่อไป แต่กลับแพ้ไป 2-0 ต้องตกชั้นลงมาเล่นเอเอฟซีคัพแทน เอเอฟซีคัพ 2555[แก้] หลังจากที่ตกรอบคัดเลือกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก จากการบุกไปแพ้ โปฮัง สตีลเลอร์ส ของเกาหลีใต้ไป 2 - 0 ชลบุรีได้สิทธ์ไปเล่นใน เอเอฟซีคัพ ซึ่งเป็นถ้วยรองของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก โดยชลบุรีได้อยู่ใน กลุ่มจี ร่วมกับย่างกุ้ง ยูไนเต็ด จากประเทศพม่า โฮม ยูไนเต็ด จากประเทศสิงคโปร์ และ ซิตี้เซนต์ แอธแลนติก จากประเทศฮ่องกง ซึ่งชลบุรี ได้แชมป์ของกลุ่มจี และ โฮม ยูไนเต็ด เป็นรองแชมป์ โดยชลบุรีสิทธ์ล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพบกับอัล ซาวร่า รองแชมป์ กลุ่มอี จากประเทศอิรัก ทำการแข่งขันในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.
((โทรทัศน์>)) ชลบุรี กับ การท่าเรือ เอฟซี | שרה אשר
บอลเปลี่ยนโคช! ท่าเรือ เฉือน ราชบุรี 1-0 บิ๊กแมตช์สัปดาห์นี้ ชลบุรี เอฟซี vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก เมื่อวานนี้ (11 พ. ย. ) การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในคู่แรก ส่วนคู่ที่ 2 คือ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด การท่าเรือ เอฟซี มีการเปลี่ยนโคชหลัง ดุสิต เฉลิมแสน ตัดสินใจลาออก โดยใช้อดีตโคช สระราวุฒิ ตรีพันธ์ คุมทีมแทน ครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้ จบที่ 0-0 ครึ่งหลัง การท่าเรือฯ เปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง จนถึงนาทีที่ 68 ความพยายามเป็นผล บดินทร์ ผาลา ได้บอลทางซ้ายลากตัดเข้ากลาง ก่อนตัดสินใจยิงเข้าไป บอลพุ่งหนีมือ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ทำให้การท่าเรือฯ ชนะ ราชบุรีฯ 1-0 ส่วนอีกคู่หนึ่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมสู้กันอย่างสนุก แต่จบสกอร์ไม่เด็ดขาด ผลยัง 0-0 แต่ครึ่งหลัง ทีมเยือน ขอนแก่นฯ ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 52 จากจังหวะบอลทำชิ่งกันถึง อิบสัน เมโล หลุดเข้าไปยิง จากนั้น เจ้าบ้าน เชียงใหม่ฯ เปิดเกมรุกเพื่อหวังยิงประตูคืน แต่โดนสวนกลับ เป็น อิบสัน เมโล แตะบอลหลบกองหลังผ่านให้ จักรกริช พาละพล นักเตะทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี แปนิ่ม ๆ เข้าไป ทำให้ขอนแก่นฯ ชนะ เชียงใหม่ฯ 2-0 โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564 18.
ประจำปี 2551 ได้อีกครั้ง และเริ่มต้นการบริหารในรูปแบบนิติบุคคลขึ้น แต่ผลงานในลีกก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศอีกครั้งหนึ่ง โดยสโมสรชนะเลิศในฤดูกาลนั้น คือ สโมสรเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด เอเอฟซีคัพ 2552[แก้] ชลบุรีพบกับเกดะห์ในเอเอฟซีคัพ 2009 สโมสรได้สิทธิร่วมแข่งขันในรายการ เอเอฟซี คัพ ในฐานะรองชนะเลิศของลีก โดยจับฉลากแบ่งสายรอบแรก ชลบุรีได้อยู่ในสาย G โซนตะวันออก โดยอยู่ร่วมสายเดียวกับทีม ฮานอย เอซีบี (เวียดนาม) อีสเทิร์น แอธเลติก (ฮ่องกง) และ เคดาห์ (มาเลเซีย) [5] ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมชลบุรีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม G ไปเจอกับทีม พีเอสเอ็มเอส เมดาน จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งชลบุรีเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 0[6] ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พบกับบินห์เยือง สโมสรจากเวียดนาม แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อทีม ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2553[แก้] ในปี 2553 สโมสรได้แต่งตั้ง จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง พร้อมกับย้ายสนามเหย้าจาก สนามสิรินธร ภายในโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มาที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี โดยในฤดูกาลนี้ สโมสรจบด้วยอันดับที่ 3 ในการแข่งขัน แต่ก็ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศฟุตบอลถ้วย มูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ เป็นครั้งแรก ทำให้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซีคัพ ฤดูกาล 2554 ฤดูกาล 2554[แก้] ในปี 2554 สโมสร ได้ย้ายสนามเหย้าจาก สนาม สพล.
ซี. จำกัด ฝ่ายบริหาร[แก้] ประธานสโมสร: วิทยา คุณปลื้ม รองประธานสโมสร: อรรณพ สิงห์โตทอง ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค: วิทยา เลาหกุล ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ: ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์: จีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ: พาทิศ สุภะพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนสโมสร: อัตสึโอะ โอกุระ เลขานุการสโมสร: ธิติกร อาจวาริน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทีมและเทคนิค[แก้] หัวหน้าผู้ฝึกสอน: สะสม พบประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน: จักรพันธ์ ปั่นปี, พิภพ อ่อนโม้ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู: บุญคง อรรคบุตร เจ้าหน้าที่ฟิตเนสเทรนนิ่ง: จีฮุน ชุน แพทย์ประจำสโมสร: นายแพทย์รุ่งรัฐ จิตตการ เจ้าหน้าที่บันทึกสถิติและวิเคราะห์เกม: มิซึโอะ คะโตะ ผู้บันทึกสถิติและวิเคราะห์: มิซึโอะ คาโตะ หัวหน้ามีเดีย ประจำทีม "บอย บางปู" วรากรณ์ โสรัจภิญโญ หัวหน้าผู้ฝึกสอน[แก้] ตั้งแต่ปี พ. 2544 ถึงปัจจุบัน ปี เกียรติประวัติ 2544 สมภพ สุขสมบัติ 2545 – 2546 จเด็จ มีลาภ 2547 – 2549 วิทยา เลาหกุล ชนะเลิศ โปรลีก 2548 2550 – 2551 ชนะเลิศ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2550, ชนะเลิศ ถ้วย ก.
ประจำปี 2539 ทางกลุ่มผู้ดูแลทีมฟุตบอลฯ ได้มีการเจรจาขอรวมทีม จึงได้ก่อตั้งเป็น สโมสรฟุตบอลชลบุรี–สันนิบาตฯ สมุทรปราการ และได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1[3] ยุคโปรลีก[แก้] ต่อมาเมื่อทางสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโปรวินเชียลลีก ในปี 2543 จึงได้ออกมาก่อตั้ง ทีมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี โดยได้แยกสโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ ซึ่งในขณะนั้นลงเล่นในดิวิชั่น 1 ออกจากกัน โดยผู้เล่นของทีมส่วนใหญ่ ได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี โดยในฤดูกาลแรกที่เข้าร่วมแข่งขัน (โปรลีก 2543/44) สโมสรจบอันดับที่ 3 ของตาราง เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก[แก้] ต่อมาในฤดูกาล 2548 ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีการกำหนดให้ทีมจังหวัดที่ชนะเลิศการแข่งขัน รองชนะเลิศ ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยลีก และในปีนั้นเอง สโมสรประสบความสำเร็จโดยได้ตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขัน และได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปทำการแข่งขันในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลถัดมา และในปีเดียวกันนั้นเอง ทางสโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนสคัพ ในนามของสโมสรราชประชา และเข้าร่วมการแข่งขันสิงคโปร์คัพอีกด้วย ยุคไทยลีก[แก้] ในฤดูกาล 2550 สโมสรฯ ภายใต้การนำของจเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนในขณะนั้น สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรและวงการฟุตบอลไทย โดยสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ไทยลีก ได้เป็นสมัยแรก และถือว่าเป็นสโมสรฟุตบอลจังหวัด สโมสรแรกของประเทศไทยที่ทำได้ พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2551[แก้] เสื้อเหย้าของชลบุรีในฤดูกาล 2551 พร้อมตราสัญลักษณ์แบบเก่า สโมสร ได้เริ่มต้นฤดูกาล โดยลงทำการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.
ดูบอลสดไทยลีก ชลบุรี เอฟซี พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เช็คโปรแกรมการ
ชลบุรี มาใช้ ชลบุรี สเตเดียม โดยได้ วิทยา เลาหกุล มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเต็มตัว โดยทำงานร่วมกับ จเด็จ มีลาภ ซึ่งในปีเดียวกันนี้ สโมสรสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2554 มาครองไว้ได้ ซึ่งถือเป็นสมัยที่สามในประวัติศาสตร์สโมสร และจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ไทยลีก เป็นสมัยที่ 3 แต่ได้สิทธิเข้าไปเล่น รอบคัดเลือกใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกอีกครั้ง เอเอฟซีคัพ 2554[แก้] ในฤดูกาลนี้ สโมสรได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง ใน ชนะเลิศ ไทยเอฟเอคัพ โดยผลการจับสลากแบ่งสาย สโมสรอยู่สาย H ร่วมสายกับ เปอซิปุระชัยปุระ (อินโดนีเซีย) เซาต์ไชน่า (ฮ่องกง) และ คิงฟิชเชอร์อีสต์เบงกอล (อินเดีย) ผลการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม ปรากฏว่า สโมสรสามารถคว้าอันดับที่หนึ่งของกลุ่ม H ด้วยผลงาน ชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ 1 มี 13 คะแนน ได้สิทธิเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายและได้สิทธิเล่นเป็นเจ้าบ้านพบกับ ศรีวิจาย่า จากอินโดนีเซีย[7] และสามารถเอาชนะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ โดยเข้าไปพบกับทีม นาซาฟ จากอุซเบกิสถาน โดยชลบุรีเป็นฝ่ายแพ้การดวลจุดโทษนาซาฟหลังประตูรวมสองนัดเท่ากัน 1 ประตู ต่อ 1 ตกรอบไปในที่สุด ฤดูกาล 2555[แก้] ปี 2555 สโมสร ได้มีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาจากเอฟบีที เป็น ไนกี้[8] และเริ่มเปิดฤดูกาลด้วยการป้องกันตำแหน่งคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก.
ชลบุรี VS การท่าเรือ : พรีวิว ฟุตบอลไทยลีก 2021/22 (ช่องถ่ายทอดสด)